วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2565

ปืนลุ้นแชมป์เต็มตัว, ฟีร์มิโน่ ช่วยหงส์ไม่ไหว! 5 ข้อ อาร์เซน่อล โชว์แกร่งสยบ ลิเวอร์พูล

จากที่เป็นทีมประเภทวัวเคยขา ม้าเคยขี่ให้กับ ลิเวอร์พูล มาโดยตลอด

 ในที่สุด อาร์เซน่อล ก็ปลดแอกได้สำเร็จเมื่อเปิดบ้านกำชัยเหนือ หงส์แดง ได้ด้วยสกอร์ 3-2 จากการฟาดแข้งศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 ต.ค.

นอกจากจะหักปีก หงส์แดง ได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว เดอะ กันเนอร์ส แทงบอล UFABET ยังแย่งตำแหน่งจ่าฝูงกลับคืนมาจาก แมนฯ ซิตี้ ได้สำเร็จซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าซีซั่นนี้ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า มีศักยภาพมากพอที่จะได้ร่วมลุ้นคว้าแชมป์อย่างเต็มตัวแล้ว

1.ปืนโต ปรับทัพแค่รายเดียว

อาร์เซน่อล เปลี่ยนโผ 11 ตัวแรกแค่รายเดียวจากเกมชนะ สเปอร์ส ทีมร่วมเมือง 3-1 ที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม โดย ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ แทงบอล ปราการหลังทีมชาติ ญี่ปุ่น ได้ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก เป็นตัวจริงนัดแรกของซีซั่น แต่เป็นตำแหน่งที่เจ้าตัวไม่ถนัด

ดาวเตะซามูไรได้ลงบู๊แทน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ แบ็คซ้ายทีมชาติ ยูเครน ซึ่งมีอาการบาดเจ็บรบกวนจนไม่มีส่วนร่วมในเกมปะทะกับ ลิเวอร์พูล แต่ถึงอย่างนั้น พ่อค้าแข้งเลือดปลาดิบแสดงให้เห็นว่าสามารถรับมือกับ โม ซาลาห์ ได้อย่างไม่เป็นปัญหา และทำเอาดาวเตะทีมชาติ อียิปต์ เล่นไม่ออกกระทั่งต้องโดน เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนตัวในช่วง 20 นาทีสุดท้าย

2.หงส์ ส่งชุดเดิมบู๊พร้อมระบบใหม่ 

ด้าน ลิเวอร์พูล บุกมาเยือนด้วยขุนพล 11 ตัวเดิมทั้งหมดจากเกม แชมเปี้ยนส์ลีก ที่พวกเขาเปิด แอนฟิลด์ คว่ำ เรนเจอร์ส 2-0 พร้อมทั้งใช้ระบบการเล่น 4-4-2 เป็นเกมที่สองติดต่อกันอันเป็นการเน้นเกมรุกอย่างเต็มที่

อย่างไรก็ดี ในซุ้มม้านั่งข้างสนาม มีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆเนื่องจาก ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายทวารมือสองฟิตเต็มสูบแล้ว และมีชื่อนั่งเป็นตัวสำรองในเกม พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้เป็นนัดแรก

ทั้งนี้ หากจะเทียบกับเกม พรีเมียร์ลีก นัดเฝ้าบ้านเสมอกับ  ไบรท์ตัน 3-3 หงส์แดง ปรับทัพสามตำแหน่งโดยมี หลุยส์ ดิอาซ , ดีโอโก้ โชต้า และ ดาร์วิน นูนเญซ ได้ออกสตาร์ตก่อนหน้า ฟาบินโญ่ , โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่  

3.วินาทีที่ 58

เขี่ยบอลกันยังไม่ทันมีเหงื่อซึม ลิเวอร์พูล ก็เป็นฝ่ายตาข่ายขาดผึงอย่างเร็วจี๋ในวินาทีที่ 58 เท่านั้นจากฝีเท้าของ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่

ต่อประตูที่ว่าของดาวยิงแซมบ้า มีการตีแผ่ออกมาว่าเป็นประตูที่ทีม ปืนใหญ่ ใช้เวลาเร็วที่สุดในการเจาะไข่แดง เร้ด แมชีน ได้ในเกม พรีเมียร์ลีก

กระนั้นก็ดี อาร์เซน่อล เคยได้ประตูใน พรีเมียร์ลีก เร็วกว่านี้ในเกมชนะ คิวพีอาร์ 1-0 ซึ่ง ธีโอ วัลค็อตต์ เป็นฮีโร่ของทีมด้วยการใช้เวลาแค่ 20 วินาทีก็สอยตาข่ายได้จากการฟาดแข้งศึก ลอนดอนดาร์บี้แมตช์ เมื่อเดือนพ.ค.2013

ขณะเดียวกัน มาร์ติเนลลี่ เป็นนักเตะ ปืนใหญ่ อายุน้อยที่สุดด้วยที่ทั้งยิงประตู ลิเวอร์พูล และแอสซิสต์ได้ในเกมเดียวกันของ พรีเมียร์ลีก (21ปี 113 วัน) แถมรวม 14 นัดหลังในทุกรายการ พ่อค้าแข้งชาวเมืองกาแฟมีส่วนร่วมกับทีมทั้งหมด 10 ประตู (ยิง5แอสซิสต์5)

4.ปัญหามา ปัญญาไม่เกิด

หลังเสียประตูก่อน ลิเวอร์พูล ก็เพิ่มสถิติในทางลบด้วยการตกเป็นฝ่ายตามหลังคู่แข่งก่อนอีกจนได้ซึ่งพวกเขายังแก้ไม่ตกมาจนถึงป่านนี้

มีการเปิดเผยว่า หงส์แดง เป็นฝ่ายตาข่ายขาดก่อนคู่แข่งมากถึง 10 จาก 12 นัดหลังเริ่มตั้งแต่เกม พรีเมียร์ลีก นัดเสมอกับ สเปอร์ส 1-1 เมื่อเดือนพ.ค.เป็นต้นมา

สำหรับเกมที่ว่า ลิเวอร์พูล เสียท่าให้กับ ซน  ฮึง มิน ก่อนในนาทีที่ 56 แต่มาได้ หลุยส์ ดิอาซ ทวงคืนในนาทีที่ 74 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของสถิติที่ย่ำแย่ซึ่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังหาทางแก้ไขไม่ได้

ขณะเดียวกัน หลังบุกไปพ่ายที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ลิเวอร์พูล เก็บได้แค่ 10 แต้มเท่านั้นจาก 8 นัดซึ่งนับเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ของพวกเขานับตั้งแต่ซีซั่น 2012/13 ที่คว้ามาได้แค่ 9 แต้มจาก 8 นัดซึ่งสุดท้ายแล้วพวกเขาจบซีซั่นในอันดับ 7

5.ฟีร์มิโน่ ของแสลงทีม ปืนใหญ่

แม้จะได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองช่วงท้ายครึ่งแรกแทนที่ หลุยส์ ดิอาซ ที่บาดเจ็บ แต่ถึงยังไง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ก็ยังเป็น ฟีร์มิโน่ คนเดิมที่ขยันยิงประตู อาร์เซน่อล ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเจ้าตัวทำแสบใส่ทีมเมืองกรุงอีกจนได้จากการกระทุ้งให้ทีมเยือนตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 53

ฉะนั้น มันจึงเป็นประตูที่ 10 แล้วที่ ฟีร์มิโน่ คลำเป้า ท็อปกัน ได้จากการบู๊กัน 17 นัดซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่เขาโปรดปรานมากที่สุด

สำหรับทีมขนมหวานหมายเลขสองของ ฟีร์มิโน่ ได้แก่ วัตฟอร์ด ซึ่งโดนกองหน้าทีมชาติ บราซิล ยิงใส่ 8 เม็ดจากการดวลกัน 11 นัด ตามด้วย โวล์ฟสบวร์ก ที่เคยโดนอดีตดาวยิงทีม ฮอฟเฟ่นไฮน์ ตะบันใส่  7 เม็ดจาก 10 นัด

อย่างไรก็ดี ผลงานของ ฟีร์มิโน่ ก็ไม่มากพอที่จะช่วยให้ เร้ด แมชีน รอดพ้นจากความปราชัยได้เมื่อ อาร์เซน่อล มาได้ประตูชัย 3-2 จากการสังหารลูกโทษของ บูคาโย่ ซาก้า ในนาทีที่ 76

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น